1. ประเทศไทยมีจำนวน Active users หรือผู้ใช้งานบน Facebook มากกว่า 50 ล้านคน ถือเป็นอันดับที่ 8 ของโลก ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก รวมถึงการซื้อสื่อโฆษณาบน Facebook เป็นอับดับหนึ่งเมื่อเทียบกับสื่อประเภทอื่น โดยมียอดการโฆษณาถึง 5,762 ล้านบาท (ปี 2020)
2. คนส่วนใหญ่ใช้เวลาบน Facebook กว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน โดยเข้าใช้งานเฉลี่ยวันละ 14 ครั้ง
3. การโฆษณาบน Facebook เป็นการแทรคจากคน หรือผู้ใช้งานจริงๆ ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆที่ใช้ cookies จึงทำให้การโฆษณามีประสิทธิภาพในการวัดผลของการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
4. สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกที่ ทุกเวลา และทุกแพลตฟอร์ม ตามหลักการ Customer Journey ที่แท้จริง
5. แต่ละกลุ่มเป้าหมาย สามารถที่จะสร้างโฆษณาแยก ตามความสนใจและพฤติกรรมการใช้งานจริง และมีรูปแบบการโฆษณาที่หลากหลายให้เลือก
6. สามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ รวมถึงการแทรคยอดขายที่แท้จริงได้
7. แทบทุกธุรกิจปรับตัวมาโฆษณาออนไลน์ โดยเฉพาะการโฆษณาผ่าน Facebook
เชื่อไหมว่าคนที่ยิงแอดในปี 2020 ยังมีคนใช้ปุ่มลัด Boost Post จากหน้าเพจอยู่ บอกเลยว่าถ้ายังยิงแอดด้วยวิธีนี้มีแต่ “พัง” เพราะคุณจะมีตัวเลือกในการโฆษณาน้อยมาก! เช่น เลือกวัตถุประสงค์การโฆษณาได้แค่ 2 แบบ ทั้งๆทีจริงมีให้เหลือถึง 11 แบบ รวมถึงเลือกกลุ่มเป้าหมายได้แค่กลุ่มเดียว ไม่สามารถแยกกลุ่มเพื่อ Test หาลูกค้าที่ใช่ได้ รวมถึงข้อจำกัดอื่นๆ อีกด้วย
Ads Manager คือวิธีการยิงแอดที่ดีกว่าการ Boost Post เพราะเราสามารถเลือกวัตถุประสงค์การโฆษณาที่หลากหลายกว่า และตอบโจทย์ธุรกิจที่มากกว่า แต่ละวัตถุประสงค์การโฆษณาจะส่งผลให้ Performance และ KPI ในการวัดผลที่ต่างกัน แต่มีหลายคนที่ยังเลือกไม่เหมาะสมกับธุรกิจของตัวเอง เช่น บางคนเน้นเลือก Reach หรือการเข้าถึงคนเยอะๆไว้ก่อน ทั้งๆที่จริงเราเน้นยอดขาย ไม่ได้เน้นแบรนด์ หรือบางคนเน้นแต่ให้คนทัก (Message) เพียงอย่างเดียว แล้วค่าแอดแพง ทั้งๆที่จริงอาจจะต้องเลือกวัตถุประสงค์อื่นเพิ่มด้วย เพื่อสร้าง Marketing Funnel ในการรันแอดและกรองลูกค้าที่ใช่สำหรับธุรกิจเรา
นอกจากเลือกวัตถุประสงค์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจแล้ว หัวใจสำคัญในการรันแอดก็คือ “กลุ่มเป้าหมาย” ซึ่งหลักๆ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
รู้หรือไม่ เวลาเฉลี่ยที่คนหยุดอยู่หน้า News Feed เพียงแค่ 0.25 วินาที! ฉะนั้นถ้าคอนเท้นเราไม่น่าสนใจจริงๆ จะมีโอกาสยากมากที่กลุ่มเป้าหมายจะหยุดดูโฆษณาเรา หรือต่อให้หยุดดูแล้วทำอย่างไรถึงจะจดจำแบรนด์เราได้ และเกิดยอดขายในที่สุด เคล็ดลับในการรันแอดที่ดีคือต้องควรมีแอดอย่างน้อย 2-3 เวอชั่น เป็นตัวเปรียบเทียบ เพื่อให้ระบบ AI ของ Facebook เลือกแอดที่ดีที่สุดแสดงผล รวมถึงการเลือก Format ของการโฆษณาก็สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโพสต์จากหน้าเพจ หรือสร้างจาก Ads Manager โดยตรง (dark post)
หลังจากยิงแอดไปแล้ว อีกหนึ่งจุดที่สำคัญก็คือการ Optimize โฆษณาของเรา โดยหลักการคือเราต้องดูก่อนว่าวัตถุประสงค์การโฆษณา หรือ Objective ที่เราเลือกคืออะไร แล้วถึงจะ Focus ค่า Metrics ต่างๆที่ต้องดู เพราะต่างวัตถุประสงค์โฆษณา KPI ที่ใช้วัดผลก็ไม่เหมือนกัน จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้ ไปประเมินผล เพื่อหากลุ่มเป้าหมายที่เกิดยอดขายมากที่สุด และโฆษณาที่ปังที่สุด เพื่อไปใช้รันแอดต่อ
เพื่อสร้าง Facebook Marketing Funnel ที่ตอบโจทย์ในทุกธุรกิจ รองรับการสร้างแบรนด์และการสร้างยอดขายในระยะยาว
ใช้กลุ่มเป้าหมายทั้ง 3 กลุ่ม Core/Lookalike/Custom Audiences เพื่อ Test ผลลัพธ์ พร้อมเทคนิค Remarketing รวมถึงติด Facebook Pixels
แนะนำการแก้ไขการเขียนคอนเท้นต์และการใช้รูปภาพในการยิงแอด เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายหยุดดู จนเกิดความสนใจแบรนด์และซื้อสินค้าของเรา
สร้างโฆษณาผ่าน Ads Manager เทคนิคพิเศษ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ที่สุด ด้วยราคาต่อผลลัพธ์ถูกที่สุด เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการโฆษณา
กำหนดงบประมาณโฆษณาในแต่ละแคมเปญ รวมถึงยอดโฆษณาต่อวันได้ ไม่มีข้อจำกัด โดยเราจะประมาณการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และยอดการมองเห็นโฆษณาให้ได้
ระหว่างรันโฆษณา จะได้รับ Feedback ด้าน Performance จากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมคำแนะนำ ด้วย Real-time Dashboard
*ราคาต่อผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สินค้าหรือบริการที่ขาย / ราคา / ความแตกต่างกับคู่แข่ง / ความต้องการของลูกค้า