ในปัจจุบัน “วิดีโอคอนเทนต์” ได้รับความนิยมอย่างมากในทุกเพศ ทุกวัย และกลุ่มคนโลก ซึ่งหนึ่งแพลตฟอร์มที่ให้บริการด้านวิดีโอที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกก็คงหนีไม่พ้นยูทูบ (Youtube) ซึ่งจากสถิติผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ ในปี 2019 Youtube มียอด Active Users รายเดือนสูงถึง 1,900 ล้านคน และในแต่ละวันจะมีผู้ใช้งานเข้ามาดูวิดีโอ 5,000 ล้านครั้งต่อวัน รวมเป็นเวลากว่า 150 ล้านชั่วโมง
มากกว่าไปกว่านั้น สถิติยังเผยว่าประชากรทั่วโลกกว่า 60% หันมาดู Youtube และภายในปี 2025 มีแนวโน้มว่าผู้ใช้งานที่อายุน้อยกว่า 32 ปี กว่า 50% จะเลิกจ่ายเงินเพื่อดูโทรทัศน์ นอกเหนือจากสถิติในข้างต้นที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้คนของ Youtube แล้วการโฆษณาใน Youtube ยังมีข้อดีดังต่อไปนี้
เมื่อเทียบการโฆษณาสินค้าในรูปแบบของ “ภาพเคลื่อนไหว” หรือ “วิดีโอคอนเทนต์” การโฆษณาบน Youtube นั้นมีราคาถูกกว่าการโฆษณาบนโทรทัศน์มากเนื่องจากมีการคิดค่าโฆษณาในรูปแบบของ Cost Per View (CPV) หรือ จ่ายเมื่อมีการดูโฆษณา 30 วินาทีขึ้นไป และ Cost Per Thousand Impression (CPM) หรือจ่ายเมื่อมีการแสดงโฆษณาครบ 1,000 ครั้ง ซึ่งการเก็บค่าโฆษณา ด้วย 2 รูปแบบนี้ ทำให้ช่วยลดงบประมาณในการซื้อสื่อโฆษณา อีกทั้งยังได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าหรือเทียบเท่ากับการโฆษณาบนโทรทัศน์ รวมถึงธุรกิจรายย่อยยังมีโอกาสที่จะเข้าถึงการโฆษณาได้มากขึ้นอีกด้วย
การทำการโฆษณาบน Youtube นั้น สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนทั้งเพศ อายุ และความสนใจ รวมถึงสามารถทำ Remarketing หรือ Retargeting เพื่อยิงโฆษณาส่งไปยังกลุ่มคนที่เคยคลิกเข้ามาดูโฆษณา หรือ ติดตามช่อง เพื่อกระตุ้นให้เขาเกิดการซื้อสินค้าบริการ หรือ เข้าไปยังเว็บไซต์หรือเพจของเราได้อีกด้วย ต่างจากโทรทัศน์ที่ไม่สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนนัก
รูปแบบการโฆษณาบน Youtube ไม่ได้มีแต่โฆษณาที่เป็นภาพเคลื่อนไหวที่ขึ้นก่อนเข้ารับชมวิดีโอ เท่านั้น แต่ยังมีรูปแบบหลากหลาย อย่างเช่น แบนเนอร์ที่ติดอยู่ตามหน้าต่างๆ บนเว็บไซต์
เมื่อคุณเผยแพร่โฆษณาของคุณลงบน Youtube กลุ่มเป้าหมายสามารถย้อนกลับไปดูวิดีโอโฆษณาของคุณได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ใช่ดูได้เฉพาะช่วงเวลาที่มีการโฆษณาเท่านั้น
เมื่อวิดีโอโฆษณาของคุณมียอดวิวเพิ่มขึ้น เป็นที่ถูกใจของกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการโฆษณาก็จะเกิดการแชร์ต่อ ทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักและช่วยเพิ่มยอดวิวให้กับตัวโฆษณานั้นๆ และเมื่อคนเข้าไปดูโฆษณาเยอะเข้าก็มีแนวโน้มที่วิดีโอจะติดเทรนด์ และระบบของ Youtube ก็จะแนะนำคลิปให้กับผู้ใช้งานคนอื่นๆ ต่อไป
เป็นโฆษณาประเภทที่กดข้ามได้เมื่อไม่อยากรับชมต่อ อย่างไรก็ตาม การที่จะกดข้ามได้นั้นต้องรอให้โฆษณาเล่นไป 5 วินาที เสียก่อน ซึ่งโฆษณาในรูปแบบนี้สามารถเลือกได้ว่าจะให้โฆษณาเล่นก่อน (Pro-Roll) ระหว่าง (Mid-Roll) หรือหลัง (Post-Roll) การเล่นคลิปวิดีโอ
โฆษณาในรูปแบบวิดีโอแบบไม่จำกัดความยาว ซึ่งจะปรากฏอยู่บนสุดของหน้าผลลัพธ์การเสิร์ช เมื่อผู้ใช้งานมีการค้นหาคีย์เวิร์ดที่ตรงกับโฆษณาของคุณ ตลอดจนบริเวณหน้า Homepage และ ด้านบนของวิดีโอที่มีการแนะนำ
เป็นโฆษณาที่ไม่สามารถกดข้ามได้ ซึ่งวิดีโอในรูปแบบนี้จะมีความยาวอยู่ที่ 15 วินาที หรือสั้นกว่า สามารถเลือกได้ว่าจะให้โฆษณาเล่นก่อน (Pro-Roll) ระหว่าง (Mid-Roll) หรือหลัง (Post-Roll) การเล่นคลิปวิดีโอ โดย Non-Skippable Video Ads นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเปิดตัวสินค้าใหม่
โฆษณารูปแบบนี้คล้ายกับ Non-Skippable Video Ads คือกดข้ามไม่ได้ และ สามารถเลือกได้ว่าจะให้โฆษณาเล่นก่อน (Pro-Roll) ระหว่าง (Mid-Roll) หรือหลัง (Post-Roll) การเล่นคลิปวิดีโอ แต่ความยาวของคลิปโฆษณาจะอยู่ที่ 6 วินาทีเท่านั้น โดยทั่วไปใช้ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์
โฆษณารูปแบบนี้จะอยู่ในลักษณะของแบนเนอร์ หรือ วิดีโอขนาด 970 x 259 px บนหน้า Homepage ของ Youtube ด้านล่างช่องเสิร์ช ซึ่งการเก็บค่าโฆษณาจะอยู่ในรูปแบบของ Cost Per Day (CPD)
เพื่อสร้าง Marketing Funnel ที่ตอบโจทย์ในทุกธุรกิจ รองรับการสร้างแบรนด์และการสร้างยอดขายในระยะยาว
รูปแบบการโฆษณาที่แตกต่างจะนำมาสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป เราจะเลือกรูปแบบโฆษณาที่ตอบโจทย์กับ Marketing Funnel ของแต่ละแคมเปญอย่างเหมาะสม
กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับความต้องการของคุณ พร้อม Remarketing หากลุ่มลูกค้าเก่าที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับช่องหรือโฆษณาของเราบน Youtube
แนะนำรูปแบบการทำของคอนเทนต์ ตลอดจนการออกแบบภาพวิดีโอที่เหมาะสำหรับการยิงโฆษณา เพื่อหยุดความสนใจเป้าหมายให้เข้ามาทำความรู้จักเรา
กำหนดงบประมาณโฆษณาในแต่ละแคมเปญ รวมถึงยอดโฆษณาต่อวันได้ แบบไม่มีข้อจำกัด โดยเราจะประมาณการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และยอดการมองเห็นโฆษณา
ระหว่างรันโฆษณา จะได้รับ Feedback ด้าน Performance จากผู้เชี่ยวชาญ และหลังจบแคมเปญจะนำส่ง report การโฆษณา พร้อมคำแนะนำ
ยอดการดูวิดิโอ 660,000 ครั้ง
ยอดการดูวิดิโอ 22,000 ครั้ง
ยอดการดูวิดิโอ 95,000 ครั้ง