ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘อารมณ์ขัน’ นั้นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมนุษย์เราทุกคน คนเรามีแนวโน้มที่จะสนใจกับสิ่งที่สามารถทำให้เรารู้สึกสนุกได้ โดยสิ่งนี้ สามารถปรับใช้กับการตลาดได้ด้วยเดียวเช่นกัน
.
ถ้าลองสังเกตดูจะพบว่าคอนเทนต์ที่ ‘ตลก’ มักเข้าถึงคนได้ง่ายและมากกว่าคอนเทนต์แบบอื่นๆ ทำให้นักการตลาดจำนวนมาก ให้ความสนใจกับใช้ ‘ความตลก’ นี้ เป็นตัวดึงดูดลูกค้า ซึ่งในปัจจุบันคอนเทนต์ตลกๆ ที่นักการตลาดมักหยิบนำมาใช้ ก็คือสิ่งที่เรียกว่า ‘มีม (meme)’
.
‘มีม’ ที่เราเห็นบนโลกออนไลน์กันอยู่บ่อยๆ มักจะอยู่ในรูปแบบของ ‘GIF’ หรือไม่ก็ ‘ภาพนิ่ง’ ที่คนจำนวนมากคุ้นเคยกับเรื่องราวและความหมายของมันดีอยู่แล้ว เช่น เป็นภาพจากหนัง หรือจากหนังสือการ์ตูน เป็นต้น และโดยส่วนใหญ่ มักจะมีการใส่ข้อความที่เป็นตัวหนังสือลงไปบนภาพเหล่านี้เพื่อเพิ่มอรรถรส อย่างไรก็ตาม การใช้มีมนี้ยังคงเป็นเรื่องใหม่และท้าทายกับการทำการตลาดในยุคปัจจุบัน
.
ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับ ‘มีม’ กันให้มากขึ้น ว่ามันมีประโยชน์อย่างไร และ นักการตลาดทั่วโลกเขาใช้ ‘มีม’ ในการสร้างคอนเทนต์ทางการตลาดบนโซเชียลมีเดียอย่างไรกันบ้าง
: มีมเป็นคอนเทนต์ต้นทุนต่ำ ::
.
หากคุณอยากทำมีมของตัวเองขึ้นมาสักอัน สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแค่ หยิบเอาคอนเทนต์ที่มีอยู่แล้ว อย่างเช่น ภาพนิ่งหรือภาพจากวิดีโอ ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมีความคมชัดอะไรมากมาย มาดัดแปลง ใส่แคปชันลงไปบนภาพ เท่านี้เราก็จะได้คอนเทนต์ออกมาโดยที่ประหยัดเวลาในการผลิตรูปภาพหรือวิดีโอนั้นๆ ใหม่ด้วยตัวเอง
:: มีมก่อให้เกิดความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ::
.
มุกตลกที่ถูกถ่ายทอดผ่านมีมออกมายังโลกออนไลน์ นอกจากจะสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้คนแล้ว ยังทำให้พวกเขารู้สึกว่าพื้นที่ตรงนี้ คือที่ของเขา ที่แวดล้อมไปด้วย คนที่คล้ายคลึงกัน เข้าใจสถานการณ์ที่เขาต้องประสบพบเจอ และชื่นชอบมุกตลกแบบเดียวกัน ดังนั้น มีมจึงทำให้คนรู้สึกเป็นกลุ่มเป็นก้อน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดเป็นชุมชนบนโลกออนไลน์ในท้ายที่สุด
.
โดยความจริงข้อนี้เราสามารถนำมาปรับใช้กับการทำการตลาดได้ หากเราสามารถทำให้ผู้คนที่ติดตามหัวเราะ คนก็จะยิ่งดึงดูดคนเข้ามาติดตามมากขึ้น คนก็จะรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์เรามากขึ้นตามไปด้วย
:: มีมก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและการแชร์ต่อ ::
.
มีมถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ถูกผลิตซ้ำบนโลกอินเทอร์เน็ต เมื่อเราสร้างมีมหนึ่งขึ้นมา ถ้ามันตลกมากพอ คนก็จะเริ่มหยิบมีมนั้นไปเล่นกันต่อ จนขยายวงกว้างไปทั่วโลกออนไลน์ โดยที่เราไม่ต้องเสียสตางค์เลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้แบรนด์ของเราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นกว่าเดิม
.
นอกจากนี้ มีมยังเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าอีกด้วย เพราะปกติแล้ว คำพูดบนมีมมักจะถูกหยิบยกมาจากเหตุการณ์ปัจจุบันหรือเหตุการณ์ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ ซึ่งมันสามารถสร้างแบรนด์ของคุณให้ดู จริงใจ ทันสมัย และเป็นมนุษย์มากขึ้น
นอกจากประโยชน์ของมีมที่กล่าวมาในข้างต้น ก็ยังคงมีข้อพึงระวังในการใช้มีมด้วยเช่นเดียวกัน เพราะถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่ามีมแบบไหนที่ชนะใจผู้บริโภค แต่บางครั้งก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ควบคู่กันไป ดังนั้น หากต้องการใช้มีมในการทำการตลาด ก็อาจต้องหาจุดกึ่งกลาง ไม่ให้มีมนั้นดูหยาบคายหรือก้าวร้าวมากเกินไป ทั้งนี้ ควรระวังอย่าให้คำพูดที่ปรากฏในมีมอยู่ในรูปแบบของโฆษณา เพราะคนจะรู้สึกว่าแบรนด์ของเราขาดความจริงใจ
.
.
#Digisaws
#HolisticDigitalMarketing